“เอเลี่ยน: โรมูลัส” กำลังจะรวมเอาสิ่งที่ดีที่สุดจาก “เอเลี่ยน” และ “เอเลี่ยน 2” เข้าด้วยกัน แต่กลยุทธ์นี้มีความเสี่ยง

"เอเลี่ยน: โรมูลัส" กำลังจะรวมเอาสิ่งที่ดีที่สุดจาก "เอเลี่ยน" และ "เอเลี่ยน 2" เข้าด้วยกัน แต่กลยุทธ์นี้มีความเสี่ยง

“เอเลี่ยน: โรมูลัส” ภาพยนตร์ภาคใหม่ในจักรวาล “เอเลี่ยน” กำลังจะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์วันที่ 16 สิงหาคม 2024 โดยมี Fede Álvarez เป็นผู้กำกับ ภาพยนตร์จะเล่าเรื่องราวของทีมนักบินอวกาศที่บังเอิญไปเจอกับสิ่งมีชีวิตที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดในจักรวาล “เซโนมอร์ฟ” ระหว่างที่กำลังสำรวจสถานีอวกาศเก่าที่รกร้าง

Álvarez มีเป้าหมายที่จะนำเอาจุดเด่นของ “เอเลี่ยน” และ “เอเลี่ยน 2” มารวมกัน แต่การทำเช่นนี้กลับมีความเสี่ยง เพราะทั้งสองภาคมีสไตล์และโทนเรื่องที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง “เอเลี่ยน” เน้นไปที่บรรยากาศของความหวาดกลัวและความตึงเครียดในแบบหนังสยองขวัญ ส่วน “เอเลี่ยน 2” เน้นไปที่แอ็คชั่นระห่ำแบบหนังสงคราม การผสมผสานทั้งสองสไตล์เข้าด้วยกัน อาจทำให้ภาพยนตร์ออกมาไม่สมดุลและขาดเอกลักษณ์

แทนที่จะยึดติดกับสูตรสำเร็จในอดีต “เอเลี่ยน: โรมูลัส” ควรสร้างสไตล์ของตัวเองและหาทางสร้างความแตกต่าง Álvarez สามารถเลือกแนวทางใหม่ ๆ ในการเล่าเรื่องได้ เช่นเดียวกับ James Cameron ผู้กำกับ “เอเลี่ยน 2” ที่นำเสนอหนังแอ็คชั่นที่ตื่นเต้นเร้าใจ การยึดติดกับความปลอดภัยในอดีต อาจนำไปสู่ความล้มเหลวเหมือนกับ “Star Wars: The Force Awakens” ที่พยายามหยิบเอาสิ่งที่ดีที่สุดจากภาคก่อน ๆ มาใส่เข้าไป แต่กลับล้มเหลวในการนำแฟรนไชส์ไปสู่ยุคใหม่

ที่มา : screenrant.com