ขรัวโต หนังที่เล่าเรื่องราวประวัติของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังษี วัดระฆังโฆสิตาราม ผู้คิดค้นคาถาชินบัญชรที่โด่งดังและคนมากมายต่างก็ให้ความเคารพนับถือมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งหลังจากที่ค่ายอกาลิโก เอนเตอร์เทนเมนท์ได้ทำการสร้างอย่างเป็นทางการ พร้อมกับปล่อยตัวอย่างทาง Youtube นั้น ก็สร้างความฮือฮาพอสมควร โดยตัวหนังนั้นแบ่งการดำเนินเรื่องเป็นช่วงอายุ ตั้งแต่วัยเด็ก จนถึงวัยชรากันเลยทีเดียว ซึ่งในช่วงสุดท้ายนั้น ได้เศรษฐา ศิระฉายา ศิลปินแห่งชาติมารับบทท่าน สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสีอีกด้วย ถือได้ว่าเป็นผลงานของผู้กำกับ สมเกียรติ เรือนประภัสสร์ ที่น่าสนใจและน่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง
สำหรับหนังเรื่อง ขรัวโต อมตะเถระกรุงรัตนโกสินทร์ นี้ เป็นการถ่ายทอดเรื่องราวตำนานของท่านสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี ที่ชาวพุทธทุกคนต่างกราบไหว้กันทั้งแผ่นดินมาไว้บนแผ่นฟิล์มให้พวกเราได้เห็นถึงความพากเพียรบากบั่นของท่านตั้งแต่วัยเยาว์จนเป็นสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี ที่ทุกคนศรัทธา โดยได้นักแสดงนำถึงสี่รุ่นสี่วัยที่มารับบทพระอาจารย์โต นำทีมโดย อาต้อย-เศรษฐา ศิระฉายา ศิลปินแห่งชาติ ที่มารับบทขรัวโต ส่วนบทพระโตนั้นรับบทโดย น้ำแข็ง-ปรัชญา ประทุมเดช บทสามเณรโต รับบทโดย น้องเพลง-เจษฎาพร ชมศรี และบทของ ด.ช.โต รับบทโดย น้องเพชร-ด.ช.ชัยธวัฒน์ เนื่องจำนงค์ รวมทั้งนักแสดงมากฝีมืออีกคับคั่งที่ร่วมถ่ายทอดเรื่องราวของพระอาจารย์โตให้เราได้ชมกัน ซึ่งกำกับการแสดงโดย สมเกียรติ เรือนประภัสรร์ ที่ศรัทธาในองค์สมเด็จโตฯ เป็นอย่างมาก ซึ่งเขาใฝ่ฝันและรอคอยอยากจะสร้างหนังเรื่องนี้มานานกว่า 30 ปีเลยทีเดียว จนกระทั่งปลายเดือนพฤษภาคมนี้ได้ฤกษ์ฉายเป็นที่แน่นอนแล้ว
ขรัวโต บอกเล่าเรื่องราวของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสษีตั้งแต่วัยเด็กที่ท่านเองก็เล่นซนเหมือนเด็กทั่วไป แต่ท่านนั้นมีจิตใจอารี และเป็นเด็กที่ใฝ่รู้ หัวดี จนเติบโตขึ้นเป็นสามเณร เป็นช่วงวัยรุ่น ซึ่งเป็นช่วงชีวิตของท่านที่เข้มข้นและค่อนข้างบีบคั้น จนเมื่อเติบใหญ่เป็นพระ เป็นช่วงที่ท่านได้ศึกษาพระธรรม คำสอนต่างๆมากมาย ออกเดินธุดงค์ด้วยความยากลำบากในป่าใหญ่ และเมื่อเวลาผันผ่านมาจนถึงวัยชรา ท่านก็เป็นพระที่อารมณ์ดี น่าเลื่อมใส และได้สร้างคุณประโยชน์ไว้มากมาย
ขรัวโต อมตะเถระกรุงรัตนโกสินทร์ เป็นการถ่ายทอดเรื่องราวชีวประวัติของพระอาจารย์โตแห่งวัดระฆังโฆสิตาราม ผู้มีคุณวิเศษที่ค้นพบสุดยอดแห่งพระคาถาชินบัญชรซึ่งมีคุณวิเศษ ตั้งแต่วัยเยาว์ซึ่งท่านเป็นเหมือนกับเด็กทั่วๆ ไป ที่ชอบเล่นซนไปตามประสา แต่ ณ เวลานั้นท่านก็เป็นผู้มีจิตใจโอบอ้อมอารีมีเมตตาต่อผู้อื่นเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการเรียนเป็นสิ่งที่ท่านรักมากมาตั้งแต่วัยเยาว์ จนมารดาของท่านได้พาไปฝากเรียนกับหลวงตาแก้วซึ่งเปรียบเสมือนอาจารย์คนแรกของท่าน เมื่อท่านอายุครบบวชเณรก็ตัดสินใจบวชเป็นสามเณรอย่างจริงจัง ในขณะที่มารดาของท่านทั้งรักและเป็นห่วงไม่อยากให้ท่านอยู่ไกลอกของมารดา แต่ท่านในขณะเป็นสามเณรก็ยังคงยืนยันตามเจตนารมณ์เดิม หลังจากนั้นไม่นานท่านก็พบกับความจริงที่ว่าท่านไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของพ่อที่เลี้ยงดูท่านมาจึงได้ขอลาบวชเรียนโดยไม่สึกอีกเลย
เมื่อถึงเวลาท่านก็บวชพระต่อโดยท่านได้ออกธุดงค์ไปในที่ต่างๆ กับขรัวตาแสง ซึ่งช่วงนี้นับเป็นช่วงทดสอบชีวิตของท่านเลยทีเดียว ซึ่งท่านต้องเข้าไปในป่าเพื่อเรียนรู้วิชาอาคมต่างๆ จากขรัวตาแสง และต้องเผชิญกับอุปสรรคนานาจนกระทั่งได้เรียนรู้วิชาปาฏิหาริย์อย่างการย่นระยะทางอันเป็นที่เลื่องลืออย่างมาก แต่อย่างไรก็ตาม ไม่เพียงทางธรรมเท่านั้นที่ท่านได้เรียนรู้ ในเรื่องความรักเองท่านก็ได้เผชิญมาจนก่อเกิดเป็นรักสามเส้า ที่ทำให้ท่านเข้าใจถึงสัจธรรมทางโลก และแก่นแท้ของความเป็นมนุษย์ว่า “ที่ใดมีรัก…ที่นั่นมีทุกข์” ซึ่งท่านไม่ใช่พระที่เคร่งขรึม แต่ท่านมองโลกในแง่ดี นำธรรมะมาสอนแก่เราด้วยปรัชญาธรรมะอย่างง่ายๆ ผสมอารมณ์ขันจนเป็นที่รักและเคารพศรัทธาของผู้คนมากมาย
จะว่าไป เราก็ไม่ค่อยจะได้เห็นหนังที่สร้างประวัติของพระชื่อดังเท่าไรนัก จึงถือว่าหนังเรื่องขรัวโตค่อนข้างน่าสนใจมากทีเดียว ว่าผู้กำกับจะสร้างออกมาได้ซาบซึ้งมากแค่ไหน เพราะฉะนั้น 28 พฤษภาคมนี้ อย่าลืมตีตั๋วเข้าไปพิสูจน์ และเรียนรู้ประวัติของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังษี ในโรงหนังไปด้วยกัน
สำหรับหนังไทยเรื่อง ขรัวโต อมตะเถระกรุงรัตนโกสินทร์ นี้ ถือเป็นอีกเรื่องที่น่าสนใจกับความกล้าของผู้กำกับฯ ที่กล้านำเรื่องของพระอาจารย์โตมาถ่ายทอดให้ทุกคนได้ชื่นชมในบารมีของท่าน โดยเฉพาะเราคนไทยทั้งประเทศไม่ควรพลาดหนังเรื่องนี้อย่างยิ่ง ติดตามชมกันได้ในวันที่ 28 พฤษภาคมนี้
